วิธีเลือกอะโวคาโดให้ได้ผลสุกกำลังดี อร่อยถูกใจ

 วิธีเลือกอะโวคาโดให้ได้ผลสุกกำลังดี อร่อยถูกใจ

อะโวคาโด ผลไม้สุดฮิตที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและอร่อย กลายเป็นส่วนหนึ่งของเมนูอาหารหลายๆ คน แต่การเลือกอะโวคาโดให้ได้ผลสุกกำลังดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะถ้าสุกเกินไปก็จะเละเกินไป แต่ถ้ายังดิบอยู่ก็จะแข็งและรสชาติไม่อร่อย วันนี้เราจึงมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับวิธีเลือกอะโวคาโดให้ได้ผลที่อร่อยถูกใจกันค่ะ

วิธีเลือกอะโวคาโด
วิธีเลือกอะโวคาโด

วิธีเลือกอะโวคาโด

  • สังเกตสีเปลือก: อะโวคาโดที่สุกกำลังดีจะมีเปลือกสีเข้มขึ้นเล็กน้อย เปลือกจะนิ่มเมื่อกดเบาๆ แต่ไม่ยุบตัว
  • สังเกตขนาดและน้ำหนัก: อะโวคาโดที่สุกจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาด
  • สังเกตก้าน: ลองบีบก้านอะโวคาโดเบาๆ ถ้าก้านหลุดออกมาง่ายแสดงว่าอะโวคาโดยังดิบอยู่ แต่ถ้าก้านติดแน่นแสดงว่าอะโวคาโดสุกกำลังดี
  • สังเกตจุดดำ: จุดดำเล็กๆ บนเปลือกอะโวคาโดเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามีจุดดำจำนวนมากหรือมีรอยช้ำแสดงว่าอะโวคาโดอาจจะเน่าเสียได้
  • เคาะเบาๆ: ลองเคาะอะโวคาโดเบาๆ ถ้าได้ยินเสียงทุ้มๆ แสดงว่าอะโวคาโดสุกกำลังดี แต่ถ้าเสียงดังกังวานแสดงว่าอะโวคาโดยังดิบอยู่

เทคนิคการเร่งให้อะโวคาโดสุกเร็วขึ้น

  • วิธีที่ 1: ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์: ห่ออะโวคาโดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์แล้วเก็บไว้ในที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 วัน อะโวคาโดจะสุกเร็วขึ้น
  • วิธีที่ 2: วางอะโวคาโดใกล้ผลไม้ชนิดอื่น: เช่น กล้วย หรือแอปเปิล แก๊สเอทิลีนที่ปล่อยออกมาจากผลไม้เหล่านี้จะช่วยเร่งให้อะโวคาโดสุกเร็วขึ้น
  • วิธีที่ 3: ใช้เตาอบ: วอร์มเตาอบ ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นำอะโวคาโดเข้าอบประมาณ 10-15 นาที หรือจนกว่าจะได้ความสุกตามต้องการ

วิธีเก็บรักษาอะโวคาโด

  • อะโวคาโดดิบ: เก็บไว้ในที่อุณหภูมิห้อง
  • อะโวคาโดสุก: หากยังไม่ทาน ควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องผัก เพื่อชะลอความสุก
  • อะโวคาโดที่หั่นแล้ว: หากหั่นอะโวคาโดแล้วทานไม่หมด ควรราดน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้อะโวคาโดเปลี่ยนสี

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • หากต้องการให้อะโวคาโดสุกช้าลง หลังจากปอกเปลือกแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำที่มีน้ำมะนาวผสมเล็กน้อย
  • เลือกซื้ออะโวคาโดจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อความสดและคุณภาพ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น