จิบชายามบ่าย: สุนทรียะเหนือกาลเวลา ต้นกำเนิดจากอังกฤษสู่ไลฟ์สไตล์หรูหรา

 จิบชายามบ่าย: สุนทรียะเหนือกาลเวลา ต้นกำเนิดจากอังกฤษสู่ไลฟ์สไตล์หรูหรา

การจิบชายามบ่าย (Afternoon Tea) ไม่ใช่เพียงแค่การดื่มเครื่องดื่ม แต่เป็นวัฒนธรรมอันงดงามที่สะท้อนถึงรสนิยมและความสุนทรีย์ในการใช้ชีวิต มีต้นกำเนิดจากชนชั้นสูงในประเทศอังกฤษตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ที่หลายคนหลงใหลในการใช้เวลาช่วงบ่ายอย่างมีสไตล์ไปกับการดื่มชาหอมกรุ่นคู่กับของว่างแสนอร่อย

การจิบชายามบ่าย
การจิบชายามบ่าย

ย้อนรอยประวัติศาสตร์: จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมจิบชายามบ่าย

ธรรมเนียม Afternoon Tea ถือกำเนิดขึ้นโดย แอนนา มาเรีย รัสเซลล์ ดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดที่ 7 ผู้ที่มักรู้สึกหิวในช่วงบ่ายระหว่างมื้อกลางวันและมื้อค่ำ เธอจึงเริ่มให้เสิร์ฟชา ขนมปัง และเค้กในห้องส่วนตัว และต่อมาได้เชิญพระสหายมาร่วมจิบชาด้วยกัน ทำให้ประเพณีนี้แพร่หลายในหมู่ชนชั้นสูงและกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอังกฤษในที่สุด นี่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่ทำให้การ จิบชายามบ่าย กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและผ่อนคลาย


องค์ประกอบคลาสสิกของ Afternoon Tea: มากกว่าแค่ชาและของว่าง

การ จิบชายามบ่าย แบบดั้งเดิมจะประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญที่จัดวางอย่างสวยงามบนถาดสามชั้น (Three-tiered Stand) ได้แก่:

  • ชา (Tea): หัวใจหลักของพิธี ชาหลากหลายชนิด อาทิ ชาดำ (Assam, Earl Grey, Darjeeling), ชาเขียว, ชาขาว หรือชาสมุนไพร มักเสิร์ฟพร้อมนมและน้ำตาล
  • แซนด์วิช (Sandwiches): ของว่างคาวชิ้นเล็กๆ ที่ตัดขอบอย่างประณีต มีไส้หลากหลาย เช่น แตงกวา แซลมอนรมควัน ไข่ หรือไก่มายองเนส
  • สโคน (Scones): ขนมปังอบเนื้อร่วนที่ขาดไม่ได้ ทานคู่กับแยม (Jam) และ คอตเต็ดครีม (Clotted Cream) ถือเป็นเอกลักษณ์ของการ จิบชายามบ่าย
  • ขนมอบและขนมหวาน (Pastries and Sweets): ขนมหวานชิ้นเล็กน่ารัก เช่น มาการอง เค้ก ทาร์ตผลไม้ หรือคัพเค้ก

โดยแซนด์วิชจะอยู่ชั้นล่างสุด สโคน อยู่ตรงกลาง และขนมหวานอยู่ชั้นบนสุดตามลำดับการรับประทาน


มารยาทในการจิบชายามบ่าย: เพิ่มอรรถรสแห่งความสุนทรีย์

เพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ การเรียนรู้ มารยาทจิบชา เล็กน้อยจะช่วยเพิ่มความสุนทรีย์:

  • การจับถ้วยชา: ควรจับที่หูถ้วยชาด้วยนิ้วชี้และนิ้วโป้ง นิ้วที่เหลือประคองฐานถ้วย ไม่ควรกระดกนิ้วก้อย
  • การคนชา: คนชาเบาๆ เป็นวงกลมจากหน้าไปหลัง ไม่ควรคนแรง
  • การทานสโคน: ผ่า สโคน ครึ่งหนึ่ง ทาแยมและคอตเต็ดครีมทีละชิ้น ไม่ควรผ่าทั้งหมดพร้อมกัน
  • การเลือกของว่าง: เริ่มต้นจากแซนด์วิช (ของคาว) ตามด้วย สโคน และปิดท้ายด้วยขนมหวาน

จิบชายามบ่ายในปัจจุบัน: คงความคลาสสิก ผสมผสานความทันสมัย

ปัจจุบัน วัฒนธรรม จิบชายามบ่าย ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยและรสนิยมที่หลากหลายขึ้น แต่แก่นแท้ของความผ่อนคลายและความสุนทรียะยังคงอยู่ โรงแรมและคาเฟ่หรูหลายแห่งในประเทศไทยได้นำเสนอชุด Afternoon Tea ในธีมที่น่าสนใจ ทั้งแบบคลาสสิกดั้งเดิม หรือแบบฟิวชั่นที่ผสมผสานความเป็นไทย ทำให้กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์ หรือใช้เวลาส่วนตัวเพื่อเติมพลังให้กับชีวิต

การ จิบชายามบ่าย จึงเป็นมากกว่าการทานอาหาร แต่เป็นการเติมเต็มจิตใจด้วยบรรยากาศอันรื่นรมย์ กลิ่นหอมของชา และรสชาติของของว่างที่คัดสรรมาอย่างดี ลองหาโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ เพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขและความผ่อนคลายให้กับตัวคุณเองดูสักครั้งนะคะ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น