เทคนิค "ยืดอายุ" แอปเปิ้ล: วิธีเก็บให้สด กรอบ นานเป็นเดือน!
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์และเป็นที่นิยม แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือเมื่อซื้อมาแล้วแอปเปิ้ลจะเริ่มนิ่มและเหี่ยวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแอปเปิ้ลปล่อยก๊าซเอทิลีน (Ethylene Gas) ซึ่งเร่งกระบวนการสุกของตัวเองและผลไม้รอบข้าง การเก็บรักษาให้ถูกวิธีจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณได้ลิ้มรสแอปเปิ้ลที่สด กรอบ เหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่ได้นานเป็นสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งเป็นเดือน
3 วิธีเก็บแอปเปิ้ลให้ได้นาน
1. คัดแยกและทำความสะอาดเบื้องต้น
ตรวจเช็คความเสียหาย: คัดแยกแอปเปิ้ลที่มีรอยช้ำ มีตำหนิ หรือมีรูออกทันที เพราะแอปเปิ้ลลูกที่เสียจะปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมามากกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้ลูกอื่นสุกเร็วตามไปด้วย
ไม่ต้องล้าง: หลีกเลี่ยงการล้างแอปเปิ้ลก่อนเก็บ เพราะความชื้นที่หลงเหลืออยู่จะเร่งให้เกิดการเน่าเสียได้ง่าย
2. ห่อแยกและเก็บในที่ที่เหมาะสม
ห่อทีละลูก (ถ้าจะเก็บนาน): หากต้องการเก็บนานเป็นเดือน ให้ห่อแอปเปิ้ลแต่ละลูกด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษทิชชูที่ไม่เป็นกรด การห่อจะช่วยกักเก็บความชื้นและป้องกันไม่ให้ก๊าซเอทิลีนจากลูกหนึ่งไปเร่งการสุกของลูกอื่น
ใช้ถุงพลาสติกมีรู (ถ้าจะเก็บระยะสั้น): สำหรับการเก็บในตู้เย็นไม่นาน ให้ใส่แอปเปิ้ลลงในถุงพลาสติกเจาะรูเล็กน้อย เพื่อให้ก๊าซเอทิลีนระบายออกได้บ้าง และคงความชื้นภายในถุง
แยกจากผลไม้ชนิดอื่น: เนื่องจากแอปเปิ้ลปล่อยก๊าซเอทิลีนสูง ห้ามเก็บแอปเปิ้ลไว้ใกล้กับผลไม้หรือผักอื่นๆ โดยเฉพาะ กล้วย อะโวคาโด และบร็อกโคลี
3. อุณหภูมิและความชื้นคือหัวใจสำคัญ
ช่องแช่ผัก (ตู้เย็น): สำหรับการเก็บในครัวเรือนทั่วไป การเก็บในช่องแช่ผักของตู้เย็นคือวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บแอปเปิ้ลคือ 0-4 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูง (ประมาณ 90-95%)
หลีกเลี่ยงช่องแช่แข็ง: อย่าเก็บแอปเปิ้ลไว้ในช่องแช่แข็ง เพราะจะทำให้เนื้อแอปเปิ้ลเละเมื่อนำออกมา
เคล็ดลับเพิ่มเติม
แช่น้ำเกลือ/น้ำมะนาว (กรณีหั่นแล้ว): หากคุณหั่นแอปเปิ้ลแล้วเหลือ ต้องเก็บแอปเปิ้ลไว้ในน้ำเย็นผสมเกลือเล็กน้อย หรือน้ำมะนาวประมาณ 3-5 นาที ก่อนนำไปแช่ตู้เย็น วิธีนี้จะช่วยชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (ทำให้แอปเปิ้ลดำ) ได้
ด้วยการใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับความกรอบอร่อยของแอปเปิ้ลได้นานยิ่งขึ้น ประหยัดและได้ประโยชน์เต็มๆ!

0 ความคิดเห็น