กลิ่นอับในห้องน้ำเกิดจากอะไร? และวิธีแก้ไขเบื้องต้น

กลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งส่งผลต่อสุขอนามัยและความสบายใจของผู้ใช้งาน การเข้าใจสาเหตุหลักของกลิ่นจะช่วยให้คุณแก้ไขได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

กลิ่นอับในห้องน้ำ เกิดจากอะไรบ้าง?

1. ท่อน้ำทิ้งและโถสุขภัณฑ์ (Piping & Sewage)

นี่คือแหล่งกำเนิดกลิ่นหลักที่มักถูกมองข้าม:

• ท่อระบายน้ำทิ้งมีสิ่งอุดตัน: เส้นผม คราบสบู่ และสิ่งสกปรกสะสมในท่อระบายน้ำที่พื้นหรืออ่างล้างหน้า เมื่อสิ่งเหล่านี้เน่าเปื่อยก็จะส่งกลิ่นเหม็นย้อนขึ้นมา

• น้ำในท่อดักกลิ่น (P-Trap) แห้ง: ท่อระบายน้ำส่วนใหญ่จะมีลักษณะโค้งงอ (P-Trap หรือ U-Trap) เพื่อกักเก็บน้ำไว้เป็นกำแพงกั้นไม่ให้ก๊าซจากท่อระบายน้ำส่วนกลางย้อนขึ้นมา หากห้องน้ำไม่ได้ใช้งานนานๆ หรืออากาศร้อนจัด น้ำในส่วนนี้อาจระเหยแห้ง ทำให้กลิ่นจากท่อหลักย้อนกลับเข้าห้องน้ำ

• ปะเก็นโถสุขภัณฑ์เสื่อม: ยางหรือปะเก็น (Wax Ring) ที่ซีลระหว่างฐานโถส้วมกับท่อระบายน้ำเสื่อมสภาพ ทำให้น้ำเสียและก๊าซจากถังบำบัดซึมหรือย้อนกลับขึ้นมาได้

2. ความชื้นและการถ่ายเทอากาศ (Humidity & Ventilation)

• การระบายอากาศไม่ดี: ห้องน้ำที่มีหน้าต่างเล็ก พัดลมดูดอากาศไม่แรงพอ หรือไม่มีพัดลมดูดอากาศเลย ทำให้ความชื้นหลังการอาบน้ำสะสมอยู่ภายใน

• เชื้อราและแบคทีเรีย: ความชื้นที่สูงและต่อเนื่องเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของเชื้อราและแบคทีเรีย โดยเฉพาะตามซอกกระเบื้อง ม่านกั้นอาบน้ำ และฝ้าเพดาน ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นอับชื้นโดยตรง

3. การทำความสะอาดและการจัดเก็บ (Cleaning & Storage)

• คราบปัสสาวะและสบู่สะสม: คราบที่มองไม่เห็นบนพื้นรอบโถส้วม หรือบริเวณข้อต่อของสุขภัณฑ์เมื่อสะสมนานเข้าก็เป็นแหล่งกำเนิดกลิ่น

• ผ้าเช็ดเท้า/ผ้าขนหนูเปียก: การปล่อยให้ผ้าเปียกอับชื้นอยู่ในห้องน้ำนานเกินไป ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นอับอย่างรุนแรง

---

💡 วิธีแก้ไขและป้องกันเบื้องต้น

1. ทำความสะอาดท่อดักกลิ่น: เทน้ำสะอาดลงในท่อระบายน้ำที่ไม่ได้ใช้บ่อย เพื่อเติมน้ำในส่วน P-Trap ป้องกันกลิ่นย้อน

2. ขจัดความชื้นทันที: เปิดพัดลมดูดอากาศทุกครั้งที่ใช้ห้องน้ำ หรือเปิดหน้าต่างทิ้งไว้หลังอาบน้ำ และนำผ้าขนหนูไปผึ่งให้แห้งภายนอก

3. ตรวจเช็คและทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์: หากมั่นใจว่ากลิ่นมาจากฐานโถส้วม ควรปรึกษาช่างเพื่อเปลี่ยนปะเก็นใหม่

4. ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา/แบคทีเรีย: เน้นทำความสะอาดร่องยาแนว และใช้เบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชูในการทำความสะอาดท่อระบายน้ำเป็นครั้งคราว