กล้ามเนื้ออักเสบ แก้ยังไงดี? คู่มือดูแลตัวเองเมื่อกล้ามเนื้ออักเสบ

กล้ามเนื้ออักเสบ แก้ยังไงดี? คู่มือดูแลตัวเองเมื่อกล้ามเนื้ออักเสบ

กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย สาเหตุหลักมาจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆ การบาดเจ็บ หรือการออกกำลังกายหนักเกินไป อาการที่พบบ่อยคือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บวม แดง และอาจมีไข้ร่วมด้วย หากคุณกำลังประสบปัญหากล้ามเนื้ออักเสบ บทความนี้มีคำแนะนำในการดูแลตัวเองเบื้องต้น เพื่อบรรเทาอาการและเร่งการฟื้นตัว

กล้ามเนื้ออักเสบ แก้ยังไง
กล้ามเนื้ออักเสบ แก้ยังไง

สาเหตุของกล้ามเนื้ออักเสบ

  • การใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆ: เช่น การยกของหนัก การทำงานที่ต้องใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ ในท่าเดิม
  • การบาดเจ็บ: การหกล้ม การกระแทก หรือการเคลื่อนไหวผิดท่า
  • การติดเชื้อ: เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
  • โรคบางชนิด: เช่น โรคไขข้ออักเสบ โรคพังผืด

อาการของกล้ามเนื้ออักเสบ

  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • บวม
  • แดง
  • ร้อน
  • เจ็บเมื่อขยับ
  • อาจมีไข้ร่วมด้วย

เมื่อกล้ามเนื้ออักเสบ แก้ยังไง

  1. พักผ่อน: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบหนักขึ้น
  2. ประคบเย็น: ช่วยลดอาการบวมและปวด ใช้ผ้าชุบน้ำแข็งห่อด้วยผ้าบางๆ ประคบบริเวณที่ปวดประมาณ 15-20 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
  3. ประคบร้อน: หลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมง สามารถประคบร้อนเพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
  4. ยาแก้ปวด: สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน เพื่อบรรเทาอาการปวด
  5. ยืดกล้ามเนื้อ: เมื่ออาการดีขึ้น ควรยืดกล้ามเนื้อเบาๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
  6. กายภาพบำบัด: หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการทำกายภาพบำบัด

เมื่อไรควรไปพบแพทย์

  • อาการปวดรุนแรงและไม่ทุเลา
  • บวมมาก
  • มีไข้สูง
  • มีแผล
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • มีอาการชาหรือมึน

การป้องกันกล้ามเนื้ออักเสบ

  • วอร์มอัพก่อนออกกำลังกาย: ช่วยเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อม
  • คูลดาวน์หลังออกกำลังกาย: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  • ยกของหนักอย่างถูกวิธี: ใช้กล้ามเนื้อขาและหลังในการยกของ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดีขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ หากมีอาการปวดกล้ามเนื้อรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น